คนไทยส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกันดีกับการซื้อทองคำที่เป็นรูปแบบเครื่องประดับอย่าง สร้อยทอง,แหวนทอง,สร้อยข้อมือ, ฯลฯ ซึ่งทองเหล่านี้เรียกว่า ทองรูปพรรณ ส่วนทองคำที่เป็นแท่ง หลายคนมักไม่คุ้นหรือไม่เคยซื้อมาก่อน และเมื่ออยากซื้อขึ้นมา อาจเกิดคำถามในใจมากมายว่าจะเหมือนกับการซื้อสร้อยทอง,แหวนทองหรือไม่
o ทองคำแท่ง มีน้ำหนักไม่ต่างจาก ทองรูปพรรณ คือเริ่มต้นตั้งแต่ 1 กรัม , ครึ่งสลึง , 1 สลึง , 2 สลึง , 1 บาท ไปจนถึง 5 บาท , 10 บาท แต่น้ำหนักที่หน่วยเป็น “ กรัม “ จะเยอะกว่าคือ 15.244 กรัม ( ทองรูปพรรณ 15.16 กรัม ) ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะซื้อทองแท่งด้วยเงินแค่หลักพันต้น ๆ
o ทองคำแท่ง มีค่าแรง (ค่าบล็อค) ต่ำกว่า ทองรูปพรรณ เนื่องด้วยไม่ได้ถูกแปรรูปเป็นเครื่องประดับ หรือเรียกได้ว่าขั้นตอนการผลิตง่ายกว่านั่นเอง โดยทองแท่งน้ำหนักต่ำกว่า 5 บาท ต้องเสียค่าบล็อค ซึ่งราคาเฉลี่ยประมาณ 100-200 บาท
o ทองแท่งขายได้ราคาดีกว่าทองรูปพรรณ เพราะมักจะไม่โดนหักค่าเสื่อมสภาพ 5 % ( ตามสมาคมฯกำหนด ) และไม่มีน้ำประสานทองที่ต้องสกัดออกตอนหลอมเหมือนทองรูปพรรณ ดังนั้น ทองแท่ง สามารถนำไปขายต่อได้เรื่อย ๆ
o ราคาทองคำแท่ง มีส่วนต่าง ราคารับซื้อ , ราคาขายออก อยู่ที่ 50-100 บาท เท่านั้น ส่วนราคาทองรูปพรรณ จะอยู่ที่ 500-1,000 บาท โดย ราคารับซื้อทองแท่ง จะแพงกว่า ราคารับซื้อทองรูปพรรณ และ ราคาขายออกทองแท่ง จะถูกกว่า ราคาขายออกทองรูปพรรณ หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ ทองแท่ง ซื้อถูก ขายแพง กว่าทองรูปพรรณ นั่นเอง
o ทองคำแท่งขายในต่างประเทศได้ แต่ต้องเป็นทอง 99.9 % ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์มาตรฐานทองโลก ส่วนในไทยจะนิยมทอง 96.5 % โดยบางประเทศจะนิยมทอง 90 % , ทอง 75 % ( 18K ) ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในวงการงานจิวเวลรี่ เพราะมีความแข็งแรงสามารถฝังพวกอัญมณี,เพชร,พลอยได้
o ทองแท่งที่ได้มาตรฐานต้องมีการบอกรายละเอียดบนเนื้อทองอย่างชัดเจน เช่น เปอร์เซ็นต์ทอง 96.5 % หรือ 99.99% , ยี่ห้อร้าน , น้ำหนักทอง , Serial Number รวมไปถึงมีใบรับประกันสินค้า ( Certificate )
o ซื้อทองคำแท่งที่ร้านไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องที่เยาวราช แต่ต้องเป็นร้านทองที่ได้มาตรฐาน, เป็นสมาชิกสมาคมค้าทองคำ ส่วนการขายทองคืน ไม่ว่าจะขายคืนร้านเดิมหรือขายคืนต่างร้าน ก็สามารถขายได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นทองที่มียี่ห้อ,มีใบรับประกันสินค้า ตัวทองไม่ชำรุด,หัก,น้ำหนักหาย เปอร์เซ็นต์เต็มก็จะได้ราคารับซื้อเต็ม
o ทองคำแท่ง เป็นทองคำที่เน้นซื้อเก็บ ไม่ว่าจะเก็บไว้เก็งกำไร,เก็บเป็นมรดกทรัพย์สิน,เก็บเป็นของขวัญ,เก็บเป็นต้นทุนให้กับลูกหลานในอนาคต ดังนั้นทองแท่งจึงเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชื่นชอบซื้อทองเก็บ ไม่เน้นใส่
o ทองคำแท่ง มักจะถูกนำไปใช้ในการ “ออมทอง” คือ เงินที่ลูกค้าได้ออมในแต่ละเดือน จะถูกนำไปซื้อทอง ซึ่งเป็นทองคำแท่ง ทำให้ได้ราคาขายออกทองคำแท่ง และเวลาขายคืนก็จะได้ราคารับซื้อทองคำแท่งเช่นกัน
o ทองแผ่น ก็คือ ทองแท่ง โดยทองแผ่นเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ีนำเอาทองแท่งมาตีให้เป็นแผ่นเหมือนกระดาษ แล้วมีการปั๊มลวดลายต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักน้อย ๆ เช่น 1 กรัม , 0.6 กรัม , 0.5 กรัม หรือแม้แต่ 0.1 กรัม ที่มีความบางมากๆ ราคาก็อยู่ที่หลักร้อย,หลักพัน ส่วนมากจะซื้อเก็บเป็นที่ระลึกมากกว่า
o ทองแท่งกับความหมายดี ๆ ทองแท่งได้รับการออกแบบลวดลายบนเนื้อทองรวมถึงตัวบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับเทศกาลวันสำคัญต่างๆ เช่น ตรุษจีน,สงกรานต์,วันพ่อ,วันแม่,วาเลนไทน์,รับปริญญา,รับขวัญหลานหรือนักษัตร,ราศี ฯลฯ เป็นข้อดีที่ทำให้เลือกซื้อได้ง่ายขึ้น ซื้อไปเป็นของขวัญให้ในวันต่าง ๆ ได้ตรงจุดประสงค์